เปิดแอร์ VS เปิดพัดลม แบบไหนที่ช่วยให้นอนหลับสบาย ฟื้นไข้ได้ไวกว่า

เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยเหมือนกันว่า เวลาเป็นไข้แท้จริงแล้วควรเปิดแอร์หรือเปิดพัดลมดี แบบไหนกันแน่ที่จะช่วยให้นอนหลับสบายฟื้นจากไข้ได้ไวกว่ากัน เพราะบางบ้านเมื่อเป็นไข้มักถูกสั่งห้ามไม่ให้เปิดแอร์นอนโดยเด็ดขาด เพราะกลัวอากาศที่ถูกปรับให้เย็นลงจะส่งผลต่ออาการไข้ ไข้แทนที่จะลดกลับสูงขึ้นมา แต่ในขณะที่บางบ้านก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้เปิดพัดลมนอนขณะเป็นไข้ เพราะเกรงว่าถ้าโดนลมจากพัดลมแล้วจะทำให้เกิดอาการเป็นหวัดคัดจมูกมากขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะหายเร็วกลัวหายช้า มีอาการป่วยอื่น ๆ แทรกซ้อนเพิ่มขึ้นไปอีก แล้วสรุปแบบไหนกันแน่คือวิธีทำให้นอนหลับได้สบายของคนเป็นไข้ที่ถูกต้อง วันนี้เรามีคำตอบเรื่องนี้มาฝาก

เปิดแอร์นอนตอนเป็นไข้ ใช่วิธีทำให้นอนหลับสบายจริงหรือ?

ปัจจุบันต้องยอมรับว่าอากาศในประเทศไทยรวมถึงทั่วโลกนั้น มีความแปรปรวนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอากาศร้อนที่ร้อนกว่าเดิมมากขึ้นจนขนลุกไปหมด ซึ่งเป็นผลพวงจากภาวะโลกร้อน ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทำให้อุณหภูมิทั่วทุกภูมิภาคของโลกสูงขึ้นกว่าเท่าตัว ทำให้อากาศสบายกลายเป็นสิ่งที่หาได้ยาก ยิ่งระหว่างที่ร่างกายไม่สบายเจ็บไข้ได้ป่วย ตัวร้อนมีไข้สูง มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ร้อน ๆ หนาว ๆ ทำให้กว่าจะข่มตาหลับลงได้เป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยาก ยิ่งหากคุณเป็นคนติดแอร์ ปกติต้องนอนห้องแอร์เป็นประจำด้วยแล้ว การเปิดแอร์จึงกลายเป็นวิธีทำให้นอนหลับง่ายและสบายขึ้นได้เพียงหนทางเดียว ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่สบายก็สามารถนอนเปิดแอร์ได้ แต่เพื่อไม่ให้ส่งผลต่ออาการป่วยไข้ จึงควรเปิดแอร์ตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

1.ปรับอุณหภูมิให้ห้องไม่เย็นหรือร้อนจนเกินไป ควรอยู่ที่ประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส

2.แอร์ที่ใช้ควรเป็นชนิดที่ติดตั้งติดถาวร ไม่ควรใช้แบบแอร์เคลื่อนที่ หรือแอร์ที่ทำความเย็นจากน้ำหรือน้ำแข็ง เพราะแอร์ประเภทนี้จะเพิ่มความชื้นในอากาศ ทำให้ขณะที่ผู้ป่วยหลับและสูดดมอากาศเข้าไปอาจเสี่ยงต่อการเป็นหวัดที่รุนแรงขึ้น จนกลายเป็นอาการปอดบวม จนป่วยหนักมากขึ้นกว่าเดิมได้

3.เลือกใช้งานระบบ Dry Mode หากไม่สบายช่วงหน้าฝนที่อากาศมีความชื้นมาก ๆ ให้ปรับเป็นระบบ Dry Mode เพื่อควบคุมความชื้น โดยระบบหนี้แอร์จะทำหน้าที่ให้ความเย็นในระดับอุณหภูมิที่กำลังสบาย พร้อมช่วยลดความชื้นในอากาศ ทำให้ในช่วงเวลาที่เป็นไข้นอนหลับได้สบาย ฟื้นไข้ได้ไว

4.ปรับทิศทางลมแอร์ไม่ให้โดนตัวโดยตรง หรือหลีกเลี่ยงการนอนจ่อแอร์

5.ให้ตั้งค่าปรับทิศทางลมแอร์เป็นแบบ Swing เพื่อให้ลมแอร์กระจายความเย็นไปทั่วห้อง

พัดลมก็เปิดตอนเป็นไข้ได้ นอนหลับสบายไม่แพ้นอนห้องแอร์

สำหรับบ้านไหนที่ไม่มีแอร์ หรือไม่ชินกับการนอนห้องแอร์ เวลาเป็นไข้ก็สามารถเปิดพัดลมและนอนหลับสบายได้เช่นกัน แถมดีไม่แพ้นอนห้องแอร์ ช่วยพัดอากาศและฝุ่นจากภายในห้องออกไปจากห้องได้อีกด้วย โดยวิธีทำให้นอนหลับสบายจากการเปิดพัดลมนั้นควรทำดังนี้

1.ไม่เปิดพัดลมเบอร์แรงที่ให้ลมแรง ให้เปิดเบา ๆ เพียงแค่พอมีลมให้ความเย็นก็พอ

2.เปิดพัดลมแบบส่าย ไม่เปิดจ่อตัว เพราะจะทำให้อาการไข้แทนที่จะฟื้นไวกลับกลายเป็นป่วยยาวนานขึ้นกว่าเดิม

3.ล้างพัดลมให้สะอาด ไม่ให้มีฝุ่นเกาะติด เพราะฝุ่นที่เกาะอาจหลุดและสูดดมเข้าไป ทำให้เกิดเป็นอาการภูมิแพ้และเป็นหวัดเพิ่มได้

4.ใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่หนา ไม่ใส่แขนยาว เพื่อเสริมการนอนให้หลับได้สบายมากยิ่งขึ้น

สรุป

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าเปิดแอร์หรือเปิดพัดลม ก็สามารถทำให้ร่างกายที่กำลังอ่อนแอจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่นอนสบายหลับสนิทได้ไม่ต่างกัน อย่าลืมว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่ห้องที่คนป่วยจะนอนต้องเป็นห้องที่สะอาด ปราศจากฝุ่น และมีอากาศที่ถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น เรื่องเปิดแอร์หรือพัดลมเป็นเพียงปัจจัยประกอบที่ช่วยให้นอนได้สบาย และหลับได้สนิทมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น เพราะยิ่งร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ นอนหลับอย่างมีคุณภาพ ร่างกายก็จะสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ไว อาการไข้ก็จะหายไวขึ้น ซึ่งคุณสามารถทำได้เพียงแค่ทำตามวิธีทำให้นอนหลับทั้งแบบเปิดแอร์และเปิดพัดลมที่เรานำมาฝาก รับรองได้เลยว่าคุณจะหลับสบายฟื้นจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วยและกลับมาแข็งแรงสดใสได้เร็วกว่าที่คิดแน่นอน

Cr. https://เขียนบทความ.com/เปิดแอร์-vs-เปิดพัดลม/