1. ไม่ควรติดตั้งแอร์บนศีรษะและปลายเตียง
ไม่ควรติดตั้งแอร์ในด้านหัวเตียงและปลายเตียง ข้อนี้สิ่งสำคัญมาก เพราะเป็นตำแหน่งที่ปล่อยลมออกมาปะทะร่างกายและศีรษะโดยตรง อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ สำหรับทิศทางลมจากเครื่องปรับอากาศที่สวนจากปลายเท้าขึ้นมาทางศีรษะ ลมเย็นจะพัดสวนเข้าจมูกตลอด หากเครื่องปรับอากาศไม่ได้ทำความสะอาดนานๆ อากาศที่เป่าออกจากแอร์จะมีความชื้นและเชื้อโรคตามมาด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ระบบหายใจทำงานผิดปกติ มีโอกาสเป็นหวัดเรื้อรัง เกิดโรคภูมิแพ้ได้ง่าย อีกทั้งการติดตั้งแอร์ไว้บนหัวเตียง จะทำให้ตอนนอนรู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับอยู่ ส่งผลให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและยังผิดหลักฮวงจุ้ยด้วย
2. ไม่ควรติดตั้งแอร์เหนือประตู
ตำแหน่งเหนือประตูห้อง คือจุดที่ไม่ควรติดตั้งแอร์ เพราะการเปิด-ปิด ประตูแต่ละครั้งจะทำให้ความเย็นออกจากห้องนอนได้ง่าย อุณหภูมิใกล้ประตูไม่คงที่ ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศเย็นช้า ระบบเซ็นเซอร์ของเครื่องปรับอากาศทำงานหนักและกินไฟ
3. ตำแหน่งแอร์ ต้องไม่โดนแสงแดดหรือความร้อนโดยตรง
เครื่องทำความเย็นทุกๆ ประเภท ไม่ควรติดตั้งในจุดที่โดนแสงแดดหรือมีเครื่องทำความร้อน โดยเฉพาะผนังบ้านทางทิศใต้และทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทิศที่รับแสงแดดเกือบตลอดทั้งวัน ไม่เพียงแค่ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ค่าไฟก็ขยับตามขึ้นด้วย หากบางห้องไม่สามารถเลี่ยงในการติดตั้งในทิศดังกล่าวได้ อาจเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศชนิดฝังฝ้าเพดานแทน
4. เลือกตำแหน่งที่กระจายลมได้ไกล
ห้องแต่ละห้องจะมีรูปร่างและขนาดต่างกัน วิธีการมองหาจุดติดตั้งแอร์มีหลักการใกล้เคียงกันคือ ติดตั้งมุมที่เครื่องปรับอากาศสามารถกระจายลมเย็นไปทั่วทั้งห้องได้ ไม่ติดตั้งในมุมอับ เพราะการกระจายความเย็นอาจทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เช่น ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตำแหน่งติดตั้งควรอยู่ในตำแหน่งผนังแนวยาว เพื่อให้ความเย็นที่ออกมากระจายไปทางซ้ายและขวาของห้องได้อย่างทั่วถึง
5. เลือกติดตั้งแอร์หรือติดตั้งเครื่องปรับอากาศในตำแหน่งตั้งฉากกับเตียง
ตำแหน่งที่เหมาะสมกับการติดตั้งแอร์ในห้องนอนมากที่สุด คือ ผนังด้านที่ตั้งฉากกับเตียง ให้ทิศทางลมจากตัวเครื่องพัดขวางลำตัวในเวลานอน อาจติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้ตรงบริเวณกลางเตียงหรือขยับเยื้องค่อนไปทางปลายเตียงเล็กน้อย จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้หรือระบบทางเดินหายใจได้
Cr. https://www.thepalmhome.com/ติดตั้งแอร์จุดไหนของห้/