3. ไม่เช็กตำแหน่งก่อนติดตั้ง
ตำแหน่งการติดตั้งแอร์ก็สำคัญ เพราะหากติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม ก็ช่วยให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนักและประหยัดค่าไฟได้อีกทางหนึ่ง โดยพื้นที่ที่ติดตั้งแอร์ควรเป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีสิ่งของบังทางลม พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นมุมอับ การติดตั้งแอร์บนผนังบ้านที่รับแสงแดดจัดหรือทิศตะวันตกเพราะจะทำให้เครื่องทำงานหนัก รวมถึงไม่ติดตั้งแอร์บริเวณใกล้กับประตูหรือหน้าต่าง เนื่องจากจะทำให้ความร้อนภายนอกไหลเข้ามาแทนที่อากาศภายในได้ง่าย
4. เปิดแอร์พร้อมพัดลมทำให้เปลืองไฟ
บางคนอาจจะคิดว่าการเปิดพัดลมพร้อมกับแอร์ทำให้เปลืองไฟ ซึ่งจริง ๆ แล้วเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟควรเปิดพัดลมควบคู่กับการเปิดแอร์ไปด้วย จะทำให้ห้องเย็นขึ้นและช่วยประหยัดไฟได้ ซึ่งมีทริกง่าย ๆ เริ่มจากปรับแอร์ไปที่ 25-27 องศาเซลเซียส แล้วเปิดพัดลมไปพร้อม ๆ กัน พัดลมก็จะช่วยกระจายลมเย็นให้ทั่วห้อง และช่วยลดอุณหภูมิในห้องได้อีก 1-2 องศาเลยทีเดียว
5. เปิดแอร์อุณหภูมิต่ำจะช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้น
หลายคนคงเคยปรับแอร์ให้มีอุณหภูมิต่ำเพราะอยากให้ห้องเย็นเร็วขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้วทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ เพราะไม่ว่าตั้งให้อุณหภูมิต่ำสักแค่ไหน ก็ใช้เวลาในการทำความเย็นพอ ๆ กันกับการตั้งอุณหภูมิปกติอยู่ดี ทางที่ดีถ้าหากอยากให้ห้องเย็นเร็วขึ้น ให้เร่งความเร็วพัดลมแอร์จะช่วยได้ดีกว่า
6. อุณหภูมิ 25 องศา ช่วยประหยัดไฟได้มากที่สุด แม้ว่าการตั้งอุณหภูมิ 25 องศา จะช่วยประหยัดไฟ แต่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง เพราะจริง ๆ แล้วควรใส่ใจดูแลรักษาตัวเครื่องไปพร้อมกัน โดยหมั่นตรวจเช็กระบบและทำความสะอาดเแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานและทำให้ตัวเครื่องทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
7. เปิด-ปิดแอร์บ่อยประหยัดไฟมากกว่า แม้จริง ๆ แล้วการเปิดแอร์ค้างไว้หลายชั่วโมงติดต่อกันจะเปลืองไฟมากกว่า แต่การเปิด-ปิดแอร์บ่อย ๆ ก็ส่งผลเสียกับตัวเครื่องไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะการทำแบบนี้จะทำให้เครื่องทำงานหนักและอายุการใช้งานสั้นกว่าที่ควรจะเป็น
แม้ว่าบ้านของคนไทยจะมีแอร์กันแทบทุกหลัง แต่เชื่อว่าถึงอย่างไรก็ต้องมีคนเข้าใจผิดอยู่ดี ฉะนั้นถ้าหากไม่อยากพลาดใช้แอร์ไม่ถูกวิธี จนเป็นเหตุทำให้เปลืองไฟและเปลืองพลังงานละก็ รีบแก้ไขด่วน ๆ เลยขอขอบคุณข้อมูลจาก gharpediaeffic, ientsystems, homequicks,
สถาบันพลังงาน มช.,
powerbuy,
รวมพลังหาร 2