แอร์โรงงานอุตสาหกรรมและแอร์บ้าน แตกต่างกันยังไง?

เครื่องปรับอากาศในปัจจุบันนั้น มีอยู่ 3 ประเภทหลักๆ ก็คือ แอร์ระดับล่าง แอร์ระดับกลาง และแอร์ระดับสูง ที่จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ซึ่งวิธีหลักๆ ในการดูระดับแอร์ก็คือค่า BTU โดยการเลือกแอร์สปีดไทม์ให้เหมาะกับการใช้งานนั้น ผู้ใช้งานจะต้องดู BTU เป็นหลักว่าเหมาะสมกับการใช้งานของเราไหม ถ้าหากผู้ใช้งานเลือกใช้ แอร์โรงงาน ไม่เป็นนั้น จะส่งผลเสียมากมายที่จะตามมาภายหลังอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวเครื่องแอร์เสียง่ายและค่าใช้จ่ายที่อาจบานปลายนั่นเอง

แอร์โรงงานมีวิธีการทำงานกันอย่างไร

ในระบบแอร์โรงงานส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ระบายอากาศในสถานที่ที่มีขนาดใหญ่ โดยจะมีค่า BTU อยู่ที่ 40,000 ไปจนถึง 150,000 กันเลยทีเดียว ด้วยความที่ตัวเครื่องเองมีขนาดใหญ่ก็จำเป็นต้องใช้กำลังไฟสูงขึ้น โดยจะใช้กำลังไฟอยู่ที่ประมาณ 380 V. ซึ่งจะมีระบบหลักการทำงานที่ไม่แตกต่างกับแอร์บ้านทั่วไปมากนัก สามารถพบเห็นได้ทั่วไปใน โรงงาน อาคารประชุม และแอร์สำนักงานต่าง ๆ เป็นต้น

มีระบบหลักการทำงานที่จะคอยทำหน้าที่ผลิตความเย็นโดยการใช้น้ำเป็นตัวหลักในการแลกเปลี่ยนหมุนเวียนเพื่อถ่ายเทความร้อนมายังภายนอก ซึ่งจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางพัดลมที่ใหญ่และรอบพัดลมเยอะกว่าที่สามารถให้ความเย็นภายในห้องได้อย่างทั่วถึงและทำงานได้ต่อเนื่องมากกว่ารูปภาพแอร์บ้านทั่ว ๆ ไป

แอร์โรงงานอุตสาหกรรม

แอร์โรงงานอุตสาหกรรม ( Chiller ) เป็นแอร์อีกรุ่นที่มีระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ที่มีขนาด BTU มากกว่า 150,000 กันเลยทีเดียว โดยส่วนใหญ่จะถูกใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้าหรืออาคารขนาดใหญ่ ที่ต้องการชะลอคุณภาพของสินค้าหรือเครื่องจักรในโรงงานอุตหกรรม เป็นต้น แอร์อุตสาหกรรมเป็นแอร์รุ่นที่ต้องอยู่ในการดูแลของพนักงานและวิศวะกรเป็นพิเศษ ซึ่งจะแบ่งระบบเป็น 2 ประเภท ก็คือ

  • แอร์โรงงานอุตสาหกรรมรูปแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ( Water Cooled Chiller ) เป็นระบบขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูง แต่ก็ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าระบบระบายอากาศด้วยอากาศเช่นกัน โดยจะคอยทำหน้าที่ในการผลิตความเย็นในรูปแบบก๊าซหรือไอเย็นความดันต่ำที่มีสภาเป็นไออิ่มตัวมาอัดอยู่ในคอมเพรสเซอร์ ( Compressor ) เพื่อถ่ายเทความร้อนให้แก่สารทำความเย็นจนมีสถานะเป็นของเหลวที่มีแรงดันสูง 
  • และนำมาลดแรงดันผ่านอุปกรณ์ลดแรงดัน ( Expansion Valve ) เพื่อฉีดของเหลวเข้าอีวาพอเรเตอร์ ( Evaporator ) จะทำให้สารทำความเย็นรับความร้อนจากการฉีดในรอบ ๆ นั้นกลายสภาพเป็นน้ำเย็นที่จะนำมาใช้ให้เกิดความเย็นภายในโรงงานอุตสาหกรรมนั่นเอง เหมาะสำหรับโรงงานที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อทำความเย็น
  • แอร์โรงงานอุตสาหกรรมรูปแบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ( Air Cooled Chiller ) เป็นระบบขนาดเล็กที่มีความแตกต่างกันที่การระบายความร้อน ซึ่งจะใช้อากาศในการระบายความร้อน โดยการระบายความร้อนออกจากสารทำความเย็นจะใช้อากาศดูดหรือเป่าไปยังขดท่อความร้อน และในระบบนี้จะต้องใช้ใบพัดลมจำนวนหลายชุดในระบบนี้ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพที่ไม่ดีเท่าระบบระบายความร้อนด้วยน้ำอย่างแน่นอน เพราะ น้ำจะมีความสามารถในการระบายความร้อนได้ดีกว่า และหากใบพัดลมชำรุด ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนจะลดลงไปด้วย เหมาะสำหรับโรงงานที่มีพื้นที่ขนาดเล็กเพื่อทำความเย็น