ฝนตกเปิดแอร์โหมดไหน อากาศเย็นสบาย ลดความชื้นในห้อง
เปิดแอร์โหมดไหนดี เย็นฉ่ำในหน้าฝน
เครื่องปรับอากาศนับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขาดไม่ได้เลยภายในบ้าน เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัดอบอ้าวแทบตลอดทั้งปี โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้มักจะเลือกเปิดแอร์แบบไม่ได้สนใจเรื่องโหมดที่ปรากฎบนรีโมทแอร์ แต่ทราบหรือไม่ว่านอกเหนือจากการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่เต็มไปด้วยคุณภาพ การปรับโหมดแอร์ยังมีความสำคัญต่อการทำความเย็นอย่างมาก ช่วยเปิดแอร์ให้เย็นเร็วขึ้น ทั้งยังอาจช่วยให้คุณประหยัดไฟ จัดการฝุ่น PM2.5 หรือลดความชื้นภายในห้องจากช่วงหน้าฝนได้
เปิดแอร์โหมดไหนประหยัดไฟ เหมาะสำหรับหน้าฝน
โดยปกติแล้วเครื่องปรับอากาศจะมีโหมดการทำงานหลัก ๆ ที่น่าสนใจอยู่ 4 โหมด แต่ละโหมดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้
• Auto Mode
เปิดแอร์โหมด Auto เป็นการเปิดโหมดที่ได้รับความนิยมกันมาก เนื่องจากสามารถทำความเย็นได้อย่างอัตโนมัติ ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก โดยเครื่องปรับอากาศจะควบคุมอุณหภูมิเป็นไปตามที่ตัวเครื่องได้กำหนดไว้ ซึ่งจะควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ ขณะที่บางครั้งยังตัดพัดลมในตัวเครื่องด้วยเมื่อถึงอุณหภูมิที่ต้องการ ส่งผลให้เป็นโหมดเปิดแอร์ประหยัดไฟรูปแบบหนึ่ง
• Cool Mode
ด้วยรูปลักษณ์เกร็ดหิมะของโหมด Cool จึงไม่น่าแปลกใจที่กลายเป็นอีกโหมดยอดนิยม โดยโหมดนี้จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานเพื่อนำความเย็นเข้ามาสู่ห้อง เมื่อเครื่องปรับอากาศสัมผัสได้ว่า อุณหภูมิถึงระดับที่ต้องการ ตัวคอมเพรสเซอร์จะหยุดทำงาน ขณะที่ส่วนของพัดลมจะทำงานต่อไป ซึ่งนับเป็นโหมดที่ใช้พลังงานค่อนข้างสูง เนื่องจากยิ่งเซตอุณหภูมิต่ำ ระยะเวลาการทำงานของคอมเพรสเซอร์ก็ยิ่งนานขึ้น
• Fan Mode
สำหรับโหมด Fan หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า โหมดพัดลม จะเป็นการตัดการทำงานของคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ ซึ่งจะใช้งานเพียงส่วนของพัดลมเพื่อหมุนเวียนอากาศภายในห้องเท่านั้น สามารถช่วยลดกลิ่นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ออกไปได้ แต่จะไม่ทำความเย็นให้กับภายในห้อง
• Dry Mode
แอร์โหมด Dry สัญลักษณ์เป็นรูปหยดน้ำ นับเป็นโหมดที่ออกแบบมาสำหรับหน้าฝน เนื่องจากสามารถดูดความชื้นภายในอากาศได้ ช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัดกับอากาศภายในห้อง แต่จะไม่ทำความเย็นได้ดีเหมือนกับโหมด Cool ซึ่งนับว่าเป็นโหมดที่ดีต่อการใช้งานช่วงฝนตกและอากาศไม่ได้ร้อนจัดมากนัก สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าหน้าฝนควรเปิดแอร์โหมดไหนดี แอร์โหมด Dry ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์การใช้งานหน้าฝน โดยมีส่วนช่วยควบคุมความชื้นภายในห้อง มอบความเย็นสบายได้อย่างตรงใจ
เทคนิคการเลือกซื้อแอร์ยุคใหม่
การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ นอกจากเป็นการได้แอร์ที่ช่วยเปลี่ยนอุณหภูมิให้เย็นฉ่ำแล้ว ยังสามารถช่วยคุณให้ประหยัดเม็ดเงินได้มากขึ้น สามารถสูดอากาศได้อย่างชุ่มปอดไร้ฝุ่น โดยมีแนวทางน่าสนใจ ดังนี้
เปิดรีโมทแอร์
เลือกแอร์ที่เหมาะสมช่วยให้เย็นได้ยาวนาน
• เลือก BTU ให้เหมาะสมกับห้อง
การเลือก BTU ให้เหมาะสมกับห้องนับเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากส่งผลต่อความเย็นโดยตรง ซึ่งหากห้องใหญ่เกินไป อาจส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักและทำความเย็นได้ไม่เหมาะสมกับขนาดห้อง จนเกิดปัญหาแอร์ไม่เย็นมีแต่ลม คำนวนตามสูตรได้ ดังนี้
(กว้าง x ยาว) xตัวแปร = BTU
*โดยตัวแปรดู คือ ห้องปกติไม่โดนแดด ห้องนอน = 750 ห้องทำงาน = 850 ส่วนห้องที่รับแดดเปลี่ยนค่าเป็น ห้องนอน = 800 ห้องทำงาน = 900
ตัวอย่าง ความกว้าง = 5 ความยาว = 6 ตัวแปรเป็นห้องนอนที่โดนแสงแดด = 800
(5 x 6) x800 = 24,000 BTU
• เครื่องปรับอากาศที่มีเทคโนโลยีพิเศษ
เครื่องปรับอากาศในยุคปัจจุบันค่อนข้างมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเสริมฟังก์ชั่นกันจำนวนมาก ซึ่งการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมต่อการใช้งานคือสิ่งที่สมควรทำ ตัวอย่างเช่น ระบบ Dual Inverter ที่ช่วยให้แอร์สามารถทำงานได้เร็วขึ้นถึง 40% และประหยัดพลังงานได้มากถึง 70% นับเป็นการตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่เจอปัญหาค่าไฟที่แพงขึ้นช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
• ไม่สะสมเชื้อโรคและช่วยลดฝุ่นละออง
การเลือกเครื่องปรับอากาศ นอกจากช่วยเรื่องแอร์ที่เย็นฉ่ำแล้ว ควรเลือกแอร์ประเภทที่ช่วยดักจับฝุ่น PM2.5 ไม่เป็นจุดสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานไม่เจอปัญหาจากฝุ่นภายนอกห้อง สูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่
Cr. https://www.lg.com/th/blog-list/air-conditioner-mode-rainy-season/